ถ้าคุณเล่นเกมนี้มาหลายรอบ จะรู้เลยว่า “การ์ดบริษัท Terraforming Mars” คือจุดตัดสินอนาคตเกมตั้งแต่ก่อนเริ่มวางชิ้นบนดาวอังคารด้วยซ้ำ เลือกดีคือเหมือนได้บัฟเริ่มเกมฟรี ๆ เลือกพลาดคือรู้สึกเหนื่อยตั้งแต่รุ่นที่สามแบบยังไม่ทันทำอะไรเท่าไร บทความนี้เราเลยจะมาชวนเจาะลึกว่า การ์ดบริษัท Terraforming Mars ควรดูยังไง เลือกใบไหนให้เข้ากับสไตล์และการ์ดในมือ และมีทริกอะไรบ้างที่จะทำให้คุณ “อ่านบริษัท” ได้เก่งขึ้น

ในชีวิตจริง เวลาเราจะเริ่มโปรเจกต์อะไรสักอย่าง เราก็อยากได้จุดเริ่มต้นที่ดี ทุนพอ และพาร์ทเนอร์ที่ไว้ใจได้ คล้าย ๆ กับการตั้งบริษัทบนดาวอังคารนี่แหละ บางคนยังชอบสลับโหมดจากบอร์ดเกมไปลุ้นโลกจริงด้วยการวางแผนงบประมาณบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง สมัคร UFABET ที่ให้ฟีล “บริหารความเสี่ยง” ใกล้เคียงกัน แต่ไม่ว่าจะบนกระดานหรือบนเว็บ สิ่งสำคัญคือการรู้ว่าเราเป็นผู้เล่นสไตล์ไหน แล้วเลือกเครื่องมือให้เข้ากับตัวเอง
การ์ดบริษัทคือ “บุคลิกเริ่มต้น” ของเราในเกม
หัวใจหลายอย่างใน Terraforming Mars ถูกกำหนดจากการ์ดบริษัทตั้งแต่วินาทีแรกที่เราหยิบขึ้นมาดู
- เงินเริ่มต้นมีเท่าไร
- เริ่มเกมด้วย Production อะไรบ้าง
- มีทรัพยากรบนกระดานผู้เล่นให้ฟรีไหม
- ความสามารถพิเศษยาว ๆ ระหว่างเกมคืออะไร
พูดง่าย ๆ คือ การ์ดบริษัท Terraforming Mars บอกว่า
“เราเป็นใคร และควรทำตัวแบบไหนถึงจะรุ่ง”
ถ้าเราเป็นบริษัทสายพลังงานแต่ฝืนเล่นเหมือนสายพืช ก็เหมือนซื้อรถสปอร์ตไปใช้วิ่งส่งของในซอยแคบ ๆ มันได้แหละ แต่ไม่คุ้มของ
การอ่านการ์ดบริษัทให้ขาด เลยเป็นทักษะที่ทำให้เรานำคนอื่นตั้งแต่ยังไม่เริ่ม Generation แรกด้วยซ้ำ
หลักคิดเบื้องต้นเวลาเลือกการ์ดบริษัท Terraforming Mars
ตอนเราได้รับบริษัทมาให้เลือก (มักจะ 2 ใบขึ้นไป) หลายคนจะเผลอเลือกจากชื่อเท่ ๆ หรือความสามารถที่ดูอลังการ แต่ถ้าอยากเลือกแบบ “สายวางแผน” ให้ลองถามตัวเอง 4 ข้อนี้
- บริษัทนี้ให้ ทุนเริ่มต้น กับเราแบบไหน
- เงิน / Production / ทรัพยากรฟรี
- บริษัทนี้ ดันเราไปทางสายไหน (พืช, พลังงาน, วิทยาศาสตร์, อวกาศ, เมือง, เศรษฐกิจ ฯลฯ)
- การ์ดในมือเริ่มเกม ซัพพอร์ตบริษัทนี้ไหม หรือไปคนละทิศ
- ในวงวันนี้ เราอยากเล่น “สายเดิมที่ถนัด” หรืออยากลอง “สายใหม่ท้าทาย”
ถ้าได้คำตอบคร่าว ๆ แล้วจะรู้สึกเลยว่า การ์ดบริษัท Terraforming Mars ไม่ได้ “ดีหรือแย่แบบตายตัว” แต่มันคือคำถามว่า “เข้ากับเกมนี้และมือนี้หรือเปล่า” มากกว่า
สรุปประเภทสายเล่นของการ์ดบริษัท Terraforming Mars
เพื่อให้เห็นภาพง่าย เรามาลองแบ่งบริษัทตาม “สายเล่นหลัก” แทนการไล่ชื่อทีละใบดีกว่า
| ประเภทบริษัท | จุดเด่นหลัก | เหมาะกับสไตล์ผู้เล่นแบบไหน |
|---|---|---|
| สายเศรษฐกิจ/เงินเยอะ | เงินเริ่มต้นเยอะ ผลิตเงินดี มีส่วนลดทั่วไป | คนชอบเล่นการ์ดแพง ๆ สายอวกาศ/คะแนนก้อนโต |
| สายพืช–ป่า | เริ่มเกมได้ Production พืชดี หรือบูสต์การ์ดสายธรรมชาติ | คนชอบเก็บแต้มปลายเกม ปลูกป่าปิดท้ายทีละชุดใหญ่ |
| สายพลังงาน–ความร้อน | เน้นผลิตพลังงาน/Heat ดันอุณหภูมิไว TR พุ่ง | คนชอบเห็น TR ขึ้นรัว ๆ รายได้โตเร็ว |
| สายวิทยาศาสตร์ | เน้นสัญลักษณ์ Science ลดค่าใช้จ่าย เปิดการ์ดขั้นสูง | คนชอบคอมโบแปลก ๆ และเล่นเด็คลึก ๆ |
| สายอวกาศ/ไทเทเนียม | ทำงานกับการ์ด Space ใช้ Titanium คุ้ม ๆ | คนชอบเล่นการ์ดใหญ่ แต้มสูง องค์กรสุดล้ำยุค |
| สายเมือง–โครงสร้าง | โฟกัสที่เมืองและอาคารบนกระดาน | คนชอบวางเมืองกินแต้มรอบป่า เล่นกับตำแหน่งบนบอร์ด |
| สายบาลานซ์/อเนกประสงค์ | ไม่มีจุดเดียวที่เด่นสุด แต่ค่าเริ่มต้นสมดุล | คนที่ยังไม่รู้จะเล่นสายไหน ชอบเล่นปรับตามใบการ์ด |
ในแต่ละเกม หน้าที่เราคือดูว่า “บริษัทใบไหนดันเราไปทางที่การ์ดในมือช่วยได้ดีที่สุด”
อ่านค่าเริ่มต้นให้ขาด: เงินเยอะดีเสมอไหม?
หลายคนชอบบริษัทที่ “เงินเริ่มต้นเยอะ” เพราะรู้สึกอุ่นใจ มีทุนไปซื้อการ์ดช่วงแรกได้เยอะ แต่ต้องไม่ลืมว่า ใน Terraforming Mars
- เงิน = ทรัพยากรที่ใช้ได้ทันที
- Production = เงิน/ทรัพยากรที่ “ได้ทุก Generation”
การ์ดบริษัท Terraforming Mars บางใบให้ Production ดีมากแต่เงินเริ่มต้นน้อย บางใบสวนทางกันเลย
หลักคิดคร่าว ๆ
- ถ้าคุณชอบเล่นสาย engine ยาว ๆ เน้นผลิตเยอะ ๆ → รับ Production เยอะตั้งแต่ต้นเกมคือของที่ควรค่า
- ถ้าคุณชอบเล่นการ์ดใหญ่ ๆ หรือการ์ดที่ต้องลงทุนจ่ายทันทีเยอะ ๆ → เงินก้อนใหญ่เริ่มต้นก็ดี แต่ต้องรีบเปลี่ยนให้เป็น Production หรือ TR ให้ไว ไม่งั้นจะรู้สึกว่ามีเงินเยอะแต่ไม่โต
อย่าลืมดูด้วยว่าบริษัทนั้นให้ “ส่วนลดเฉพาะทาง” กับการ์ดบางประเภทไหม เพราะส่วนลดระยะยาว บางครั้งมูลค่ามากกว่าเงินเริ่มต้นที่โดดเด่นด้วยซ้ำ
การ์ดบริษัทสายเศรษฐกิจ – เล่นให้เหมือนนักลงทุน ไม่ใช่แค่คนรวย
บริษัทสายนี้มักมาพร้อมกับ
- เงินเริ่มต้นสูง
- Production เงินดี
- หรือความสามารถที่ลดราคาโครงการบางแบบ
จุดแข็งคือ “พร้อมจ่าย” ให้กับการ์ดใหญ่ ๆ และสามารถซื้อการ์ดเข้ามือได้เยอะในแต่ละรุ่น แต่จุดอ่อนคือ ถ้าเราเอาแต่ซื้อการ์ดโดยไม่รีบเปลี่ยนเป็น engine หรือ TR เกมจะเข้าสู่โหมด “เงินหนาแต่ไม่ชนะ”
วิธีใช้การ์ดบริษัทสายเศรษฐกิจให้คุ้มคือ
- ช่วงต้นเกม: ใช้เงินไปกับการ์ดเพิ่ม Production และการ์ดที่ดัน Terraforming แบบชัด ๆ
- ช่วงกลางเกม: เริ่มซื้อและเล่นการ์ดแต้มที่แพง ๆ โดยใช้ Production เงินที่ปั้นมาแล้ว
- ช่วงท้ายเกม: ระวังอย่าซื้อการ์ดที่คืนทุนไม่ทัน ให้คำนวณว่าเหลือกี่ Generation ยังมีเวลาทำกำไรไหม
สายนี้เหมาะกับคนที่ชอบคำนวณ EV (ค่าคุ้มทุนในหัว) และไม่กลัวการตัดใจทิ้งการ์ดสวย ๆ ที่ไม่เข้าแผน
การ์ดบริษัทสายพืช–ป่า – ทำดาวอังคารให้เขียวแบบช้าแต่ชัวร์
บริษัทบางใบเปิดมาพร้อมการผลิตพืชสูง หรือมีความสามารถเกี่ยวกับการ์ดพืช/สัตว์/ธรรมชาติ จุดเด่นของสายนี้คือ “แต้มช่วงท้ายเกมมหาศาล” เพราะป่าให้ทั้ง
- แต้มตรงจากป่า
- แต้มทางอ้อมผ่านเมืองที่ล้อมรอบ
จุดที่ต้องระวังคือ สายนี้จะไม่แรงในช่วงต้น ถ้าเกมบนโต๊ะเร็วมาก ดันค่ากลางกันโหด เกมอาจจบก่อนที่ป่าของคุณจะโต
วิธีเล่นบริษัทสายพืชให้คมคือ
- ช่วงต้น: ปั้น Production พืชให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ และอย่าลืมรักษาเงินสำหรับการ์ดที่ช่วย Terraforming ด้วย
- ช่วงกลาง: เริ่มทยอยแปลงพืชเป็นป่าบ้าง ไม่ต้องกอดรอทีเดียวตอนท้าย เผื่อเกมจบเร็วกว่าที่คิด
- ช่วงท้าย: ระเบิดป่าทุกก้อนที่มี และวางให้ล้อมเมืองเราให้ได้มากที่สุด
ถ้าเล่นในวงที่ชอบดันเกมให้ช้า (ไม่ค่อยเร่ง Terraforming) บริษัทสายนี้จะเปล่งประกายสุด ๆ
การ์ดบริษัทสายพลังงาน–ความร้อน – TR พุ่งคือเงินเดือนขึ้น
บริษัทสายพลังงานจะให้ Production Energy ดี หรือมีความสามารถเกี่ยวกับ Heat อย่างชัดเจน ข้อดีคือ
- พลังงานที่ไม่ได้ใช้จะกลายเป็น Heat
- Heat ใช้ดันอุณหภูมิ → TR ขึ้น → รายได้เงินพื้นฐานขึ้นทุก Generation
แปลว่า ถ้าเราเล่นสายนี้ได้ถูกจังหวะ เราจะขี่คลื่น TR ขึ้นยาว ๆ ทำให้ทั้ง
- รายได้ดี
- คะแนนพื้นฐานตอนจบสูง
สิ่งที่ต้องระวังคือ
- อย่าปล่อยให้พลังงานเหลือทิ้งโดยไม่ใช้ทั้งในรูป Action และ Heat
- ไม่ควรมัวแต่เล่นการ์ดหรู ๆ จนลืมดันอุณหภูมิ ทั้งที่เราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
สายนี้เหมาะกับคนที่ชอบเห็นตัวเลข TR ขึ้นเรื่อย ๆ แล้วรู้สึกชีวิตมีความหมาย 😂
การ์ดบริษัทสายวิทยาศาสตร์ – คอมโบลึก สนุกแต่ต้องใจเย็น
บริษัทที่เน้น Science มักจะ
- เริ่มเกมด้วยการ์ดหรือสัญลักษณ์ Science
- หรือมีความสามารถลดค่าใช้จ่ายการ์ดที่ต้องใช้ Science จำนวนหนึ่ง
เด็คสายนี้มีเสน่ห์ตรงที่ “ยิ่งเล่นยิ่งโหด”
- การ์ดขั้นสูงบางใบจะต้องการ Science icon จำนวนมาก
- พอเรามี Science จำนวนหนึ่ง การ์ดพวกนี้จะคุ้มมากทั้งด้าน TR และคะแนน
จุดเสี่ยงของสายนี้คือ ถ้าเรามัวปั้น Science โดยไม่ได้ทำ Terraforming หรือ Production อย่างอื่นควบคู่ เกมอาจจบก่อนที่เด็ค Science จะโชว์พลังเต็ม
การใช้การ์ดบริษัท Terraforming Mars สายวิทยาศาสตร์ให้โหดคือ
- ช่วงต้น: ผสมการ์ด Science กับการ์ดเพิ่ม Production อย่างบาลานซ์
- ช่วงกลาง: เริ่มปล่อยของหนัก ๆ ที่ต้องใช้เงื่อนไข Science หลายใบ
- ช่วงท้าย: ใช้การ์ด Science แต้มสูงและการ์ดที่ให้ TR ทันทีให้คุ้มทุกเม็ดทรัพยากร
เหมาะกับคนที่ชอบเล่น “เด็คคอมโบ” และไม่กลัวช่วงต้นเกมที่อาจจะดูนิ่งกว่าสายอื่นนิดหน่อย
การ์ดบริษัทสายอวกาศ–Titanium – เล่นให้เหมือนยิงจรวดใส่แต้ม
บริษัทกลุ่มนี้มักจะให้ข้อดีเกี่ยวกับ
- การ์ดที่มีสัญลักษณ์ Space
- การใช้ Titanium ให้คุ้มขึ้น (ค่ามากขึ้นหรือส่วนลดเพิ่ม)
ความสนุกคือ การ์ด Space มัก
- แพง
- ให้ TR หรือแต้มเยอะ
- มีเอฟเฟกต์อลังการ
ถ้าเราเริ่มเกมด้วย Production Titanium ดี ๆ หรือสามารถใช้ Titanium แทนเงินได้คุ้ม ๆ บริษัทสายนี้จะเหมือนเราได้ “ทองคำพรีเมียม” ไว้ลงทุนโครงการใหญ่ ๆ
วิธีเล่นคือ
- อย่าลืมหาแหล่ง Titanium ให้พอ ไม่อย่างนั้นบริษัทจะขาดแหล่งเชื้อเพลิง
- อย่าซื้อการ์ด Space ทุกใบ เพราะแพงและอาจเล่นไม่ทัน เลือกเฉพาะใบที่เข้ากับแผนจริง ๆ
- จำไว้ว่า Titanium ที่ใช้ไม่ทันตอนท้ายเกม คือโอกาสที่หายไปเฉย ๆ
สายนี้เหมาะกับคนที่ชอบเล่นอะไร “ใหญ่ ๆ หนัก ๆ” มากกว่าเก็บเล็กผสมน้อย
การ์ดบริษัทสายเมือง–โครงสร้าง – เล่นด้วยสายตาของสถาปนิก
บริษัทเน้นเมือง/อาคารจะมีความสามารถที่เกี่ยวข้องกับ
- การวางเมือง
- การเล่นการ์ดประเภท Building
- หรือได้โบนัสจากโครงสร้างบนกระดาน
ข้อดีคือ
- เมืองให้แต้มตอนจบจากป่ารอบ ๆ
- การ์ด Building หลายใบเพิ่ม Production และความสามารถด้านทรัพยากร
วิธีใช้บริษัทสายนี้ให้สุดคือ
- วางแผน “ผังเมือง” ตั้งแต่กลางเกม ว่าอยากให้เมืองสำคัญอยู่ตรงไหน
- ใช้ Production เหล็ก (Steel) ให้คุ้มกับการเล่นการ์ด Building
- ระวังอย่าวางเมืองชิดเมืองตัวเองมากเกิน ถ้าไม่มีเหตุผล เพราะเราต้องการพื้นที่ป่าล้อมเมือง
ถ้าเพื่อนในวงชอบสายป่าอยู่แล้ว สายเมืองจะยิ่งสนุก เพราะคุณจะกลายเป็นคนที่ “รอเก็บแต้มจากป่าคนอื่น” ด้วยส่วนหนึ่ง
การ์ดบริษัทสายบาลานซ์ – เหมาะกับเกมที่ยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน
บริษัทแบบบาลานซ์จะ
- ให้ Production หลายอย่างแต่ไม่สุด
- เงินเริ่มต้นกลาง ๆ
- ความสามารถไม่หวือหวาแต่ใช้ได้เรื่อย ๆ
ข้อดีคือ “ไม่พาเราตกเหว” ในเกมที่เรายังไม่รู้สึกมั่นใจกับสายไหน หรือในการ์ดเริ่มต้นที่กระจัดกระจายมาก
การใช้บริษัทสายนี้ให้คุ้มคือ
- อ่านการ์ดเริ่มต้นว่ามีอะไรสนับสนุนสายไหนมากที่สุด
- จากนั้นใช้ความยืดหยุ่นของบริษัทในการ “เทไปทางนั้น” ให้จริงจัง
- อย่าพยายามเล่นทุกอย่าง เพราะจะกลายเป็นกลางไปหมดจนสู้ใครไม่ค่อยได้
เหมาะกับคนที่ชอบปรับตัวตามสถานการณ์ ไม่อยากถูกล็อกให้เล่นสายเดียวจนเกินไป
การผูกบริษัทเข้ากับการ์ดในมือ: จุดที่คนส่วนใหญ่มองข้าม
เวลาได้บริษัทมาเลือกกับการ์ดเริ่มต้น มือใหม่มักจะดูทีละกอง
- ดูบริษัทก่อน
- แล้วค่อยมาดูการ์ดทีหลัง
แต่สายจริงจังจะดูเป็น “คู่” เสมอ
ให้ลองคิดแบบนี้:
- บริษัท A + การ์ดชุดนี้ → เราเห็นภาพแผน 3–4 Generation ข้างหน้าชัดไหม
- บริษัท B + การ์ดชุดเดียวกัน → ภาพอนาคตชัดกว่า หรือบางอย่าง synergy แรงกว่าหรือเปล่า
ถ้าเล่นด้วยภาค Prelude ด้วย การจับคู่จะเป็นแบบสามชั้น: บริษัท + Prelude + การ์ดเริ่มต้น ซึ่งทำให้เกมมีคาแร็กเตอร์เปิดที่แตกต่างมากขึ้นไปอีก
นี่คือจุดที่ “การ์ดบริษัท Terraforming Mars” เปลี่ยนจากแค่กระดาษใบหนึ่ง ไปเป็น “คำประกาศแผนธุรกิจ” ของเราในเกมนั้น
เชื่อมจากดาวอังคารสู่โลกจริง: เลือกบริษัทเหมือนเลือกแนวลงทุน
การเลือกการ์ดบริษัท Terraforming Mars คล้ายการเลือกแนวลงทุนเลยนะ
- สายพืช = ลงทุนระยะยาว ผลตอบแทนปลายเกม
- สายพลังงาน/Heat = ลงทุนเพื่อดันรายได้พื้นฐาน (TR) อย่างรวดเร็ว
- สายวิทยาศาสตร์/อวกาศ = ลงทุนในนวัตกรรมและโปรเจกต์เสี่ยงแต่คุ้ม
- สายเมือง = ลงทุนอสังหาฯ บนดาวอังคาร 😂
พอเห็นแบบนี้ หลายคนก็เริ่มอินกับการทดลองสไตล์ “บริหารทรัพยากร” ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นการจัดงบส่วนตัว ลงทุนเล็ก ๆ หรือแม้แต่ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปลุ้นอะไรเร็วขึ้นผ่านแพลตฟอร์มที่ต้องวางแผนงบจริง ๆ อย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด
แต่อย่าลืมว่า บนกระดานเราใช้ทรัพยากรจำลอง แต่ในชีวิตจริงเราใช้เงินของตัวเอง เงื่อนไขสำคัญจึงเพิ่มเข้ามาอีกข้อคือ
“เล่นยังไงก็ได้ แต่อย่าให้กระทบชีวิตจริงในทางแย่”
ใช้สกิลคิดแบบ Terraforming Mars คุมความเสี่ยงตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะบนโต๊ะหรือบนหน้าจอ
ข้อผิดพลาดยอดฮิตเวลาเลือกการ์ดบริษัท Terraforming Mars
มาดูสิ่งที่คนมักพลาดกันบ่อย ๆ
- เลือกบริษัทเพราะ “ชื่อเท่” หรือมีรูปสวย โดยไม่ดู Production/ความสามารถจริง
- อ่านความสามารถแค่บรรทัดแรก ไม่เห็นว่าเงื่อนไขการทำงานจริงยุ่งยากกว่าที่คิด
- ไม่ดูการ์ดเริ่มต้นว่าซัพพอร์ตสายของบริษัทหรือไม่
- ลืมว่าบริษัทบางใบ “ช้าต้น แต่แรงปลาย” แล้วเอาไปเล่นในวงที่เกมจบเร็ว
- เลือกบริษัทที่ดีจริง แต่เล่นไม่เข้าทางสไตล์ตัวเอง ทำให้ใช้ศักยภาพไม่ครบ
แก้ง่าย ๆ คือ หลังจบเกมลองถามตัวเองว่า
“ปัญหาที่แพ้เกิดจากบริษัทที่เลือก หรือวิธีที่เราใช้บริษัทใบนี้?”
คำตอบจะช่วยให้รอบต่อไปเราอ่านบริษัทได้เฉียบขึ้นเรื่อย ๆ
FAQ – คำถามที่มักเจอเกี่ยวกับการ์ดบริษัท Terraforming Mars
ถาม: การ์ดบริษัท Terraforming Mars มีใบที่ “โกง” จนต้องแบนไหม?
ตอบ: ในวงทั่วไปส่วนใหญ่จะไม่แบนอะไรเป็นพิเศษ เพราะความโกงมักมาคู่กับความยากในการเล่นให้สุดด้วย แต่ในวงแข่งจริงจังหรือกลุ่มที่เล่นกันหนักมาก บางที่อาจมี house rule ปรับบางบริษัทที่คอมโบกับ Prelude โหดเกินไป ซึ่งตรงนี้แล้วแต่กลุ่มตกลงกันได้เลย
ถาม: ถ้าจับบริษัทที่ไม่ถูกใจ แต่การ์ดในมือเข้ากันดี ควรเลือกไหม?
ตอบ: ส่วนใหญ่ “การเข้ากับการ์ดในมือ” สำคัญกว่าความชอบส่วนตัวระยะสั้น เพราะคุณจะต้องใช้การ์ดในมือนั้นจริง ๆ ทันทีที่เกมเริ่ม ต่างจากบริษัทที่ต่อให้ไม่ถูกใจ แต่ถ้ามันเสริมแผนได้ดี เกมก็มักจบด้วยผลลัพธ์ที่สวยกว่า
ถาม: เวลาเล่นกับมือใหม่ควรสุ่มบริษัทใบเดียวหรือให้เลือก 1 จาก 2 ดี?
ตอบ: ให้เลือก 1 จาก 2 จะรู้สึกแฟร์กว่าและสนุกกว่า เพราะเพื่อนจะได้มีสิทธิ์เลือกสไตล์ตัวเองตั้งแต่ต้น ถ้าสุ่มใบเดียวแล้วดันไปเจอบริษัทที่เล่นยาก มือใหม่อาจจะท้อก่อนจบเกมด้วยซ้ำ
ถาม: ในโหมด Solo ควรเลือกบริษัทแบบไหน?
ตอบ: โหมด Solo เน้น “ดัน Terraforming ให้ครบในเวลาจำกัด” บริษัทที่ช่วยเพิ่ม Production ที่เกี่ยวข้องกับ Heat/Plants/เงิน และดัน TR ได้ไวจะมีค่ามาก การ์ดบริษัท Terraforming Mars ที่ต้องใช้เวลาปั้นนานแต่ปลายเกมโหด อาจเล่นยากเพราะเวลาไม่รอเรา
ถาม: การเลือกบริษัทเปลี่ยนไปไหมถ้าเล่นพร้อมภาค Prelude?
ตอบ: เปลี่ยนแน่นอน เพราะ Prelude เปิดโอกาสให้เราบูสต์ด้านที่บริษัทไม่ถนัด หรือยิ่งเสริมด้านที่บริษัทเก่งอยู่แล้ว ดังนั้นเวลาเล่นพร้อม Prelude การคิดเป็นชุด “บริษัท + Prelude + การ์ดเริ่มต้น” สำคัญกว่าการดูบริษัทใบเดี่ยว ๆ มาก
ถาม: ถ้าวงเล่นบ่อย ควรสุ่มบริษัทอย่างเดียวเพื่อบาลานซ์ดวงไหม?
ตอบ: ทำได้ถ้าทุกคนโอเค แต่วิธีที่สนุกกว่าคือให้สุ่มมาหลายใบ แล้วเลือกแบบ draft หรือเลือกจากตัวเลือก 2–3 ใบ จะทำให้แต่ละคนได้โชว์ความสามารถในการอ่านบริษัทด้วย ไม่ใช่ปล่อยทุกอย่างให้ดวงอย่างเดียว
ถาม: มีทริกจำง่าย ๆ ไหมว่าเราเล่นเข้ากับบริษัทใบนี้หรือยัง?
ตอบ: ดู 3 อย่างนี้
- เราได้ใช้ความสามารถพิเศษของบริษัทเกือบทุก Generation ไหม
- Production ของเราโตในด้านที่บริษัทถนัดหรือเปล่า
- การ์ดที่เล่นส่วนใหญ่มี synergy กับสายที่บริษัทดันเราหรือไม่
ถ้า 2 จาก 3 ข้อนี้ตอบว่า “ใช่” แสดงว่าคุณใช้บริษัทได้ค่อนข้างคุ้มแล้ว
การ์ดบริษัท Terraforming Mars คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งเกม
พอกลับมามองภาพรวม จะเห็นว่า การ์ดบริษัท Terraforming Mars ไม่ได้เป็นแค่ตัวเลขเริ่มต้นกับความสามารถสั้น ๆ บนกระดาษหนึ่งใบ แต่มันคือ “บุคลิก” และ “ทิศทางชีวิต” ของเราในเกมนั้น ๆ เลยทีเดียว
เลือกบริษัทดีและเล่นเป็น เราจะรู้สึกว่าทรัพยากรไหลเข้าในแบบที่เข้าใจได้ เครื่องจักรของเราทำงานไปในทิศทางเดียวกับธีมของบริษัท การ์ดที่จั่วมาเหมือนมีเหตุผลมากขึ้นว่าทำไมถึงเข้ามาอยู่ในมือเรา และตอนจบเกม ต่อให้แพ้คะแนนเพื่อน เราก็จะรู้สึกว่า “อย่างน้อยแผนของเราชัดและเดินไปถึงจุดที่ตั้งใจ”
ในทางกลับกัน ถ้าเลือกบริษัทแล้วเล่นไม่เข้าทาง เราจะรู้สึกว่าเหนื่อยตลอดเกม เหมือนบริษัทอยากให้เราทำอย่างหนึ่ง แต่เราดันพยายามฝืนไปอีกทางหนึ่งแทน
นอกกระดาน ชีวิตเราก็คล้าย ๆ กัน เราเลือก “บริษัทของตัวเอง” ผ่านงานที่ทำ แนวทางที่ใช้เวลา ปาร์ตี้ที่เข้าร่วม หรือแม้แต่กิจกรรมเสี่ยง ๆ ที่เราเลือกลอง อย่างการลุ้นออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ถ้าวันหนึ่งคุณอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากดาวอังคารไปลองสนามลุ้นผลจริง ๆ อย่าง ยูฟ่าเบท อย่าลืมพกบทเรียนเดียวกับตอนอ่านการ์ดบริษัทไปด้วย: รู้ตัวเองว่าถนัดอะไร รู้ลิมิตตัวเอง และอย่าลงแรง–ลงเงินเกินกว่าที่จะรับได้ถ้าผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างใจ
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะกำลังถือการ์ดบริษัท Terraforming Mars ใบไหนอยู่ หรือกำลังเล่นบทบาทไหนในชีวิตจริง ความสุขไม่ได้มาจากการมีบริษัทที่ “โกงที่สุด” แต่มาจากการได้รู้สึกว่า “นี่แหละ สไตล์ของเรา” และเราได้ใช้มันเต็มที่ในแบบที่ภูมิใจจริง ๆ 🌍🟥✨